บริษัท คนขายศาสตร์ จำกัด http://ronganuchit.siam2web.com/

none

.....ครูโรงเรียนราษฎร์.....

หลังจากที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาอยู่ในรั้ววิทยาลัยครูเลยหรือสถาบันราชภัฎเลยซึ่งปัจจุบันนี้เปลี่ยนมาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฎเลยเป็นเวลา ๔ ปีเต็มก็สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ค.บ.(ครุศาสตร์บัณฑิต)สาขาพลศึกษา เป็นความภาคภูมิใจของตนเองและวงศ์ตระกูล แต่สิ่งที่บัณฑิตใหม่ทุกคนจะต้องทำก็คือ การลงแข่งขันสอบบรรจุเพื่อเข้ารับราชการครู สำหรับผู้เขียนเองแล้วอาชีพข้าราชการครู เป็นความฝันอันสูงสุดเพราะว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณแม่ของผู้เขียน(คุณแม่บุญมา  อุปแก้ว) มีความสุขเพราะเป็นคนแรกของครอบครัวที่เป็นข้าราชการ(ครู) การลงแข่งขันสอบบรรจุในสนามแรกที่ สปจ.สุรินทร์ถ้าเปรียบเทียบกับนักมวยก็เป็นนักมวยที่ยังไม่เคยขึ้นเวที แต่ก็ถือว่าฝีมือเข้าขั้นพอได้เพราะเมื่อประกาศผล ผู้เขียนสามารถสอบผ่านเกณฑ์มีชื่อขึ้นบัญชีในลำดับที่ ๑๑๒ จากผู้เข้าสอบในสาขาพลศึกษาเกือบพันคน แต่ก็ไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ จากที่เคยใช้ชีวิตนักศึกษามาหลายปี ต้องมาอยู่บ้านมีสภาพเหมือนคนตกงาน เคยได้รับเงินจากหลวงพ่อ(พระครูสิทธิธรรมสุนทร เจ้าคณะอำเภอพล(ธ)) ซึ่งท่านเปรียบเสมือนเป็นคุณพ่อของผู้เขียนในการเป็นค่าใช้จ่ายในรั้ววิทยาลัยตลอด ๔ ปี เคยได้รับการสนับสนุน ดูแลจากคุณแม่มาตลอด ต่อไปนี้ผู้เขียนเองจะต้องรับผิดชอบตนเองและทำอย่างไรถึงจะมีโอกาสตอบแทนพระคุณทั้งสองท่านที่เป็นที่เคารพ รัก ของผู้เขียนบ้าง จึงพยายามที่จะหางานทำที่เหมาะกับสาขาวิชาที่เรียนมา และก็อยากจะอยู่ใกล้ๆบ้าน เพื่อจะได้มีเวลาดูแลคุณแม่ ดูแลหลวงพ่อบ้าง

 เหมือนจะเป็นโชคดีที่ในวงศ์ตระกูลของผู้เขียนเอง มีญาติที่เป็นครูสอนอยู่ในโรงเรียนราษฎร์(โรงเรียนเอกชน)หลายคน เช่น ลุงทุย(ผศ.ดร.สุรพันธ์ สุวรรณศรี) พี่แดง(อาจารย์เกษมณี  สุวรรณศรี) พี่ศักดิ์(อาจารย์ทวีศักดิ์ อุ่มเกตุ) ซึ่งทั้ง ๓ ท่านเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนไพศาลวิทย์ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น(ปัจจุบันคือโรงเรียนอนุบาลไพศาลวิทย์) ซึ่งขณะนั้นจัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ จึงแนะนำให้ผู้เขียนไปสมัครเป็นครูที่นั่น ด้วยความเมตตาจากท่านผู้ใหญ่ใจดี ซึ่งหากผู้เขียนไม่เอ่ยนามคงจะรู้สึกเสียใจมากคือ ท่านคุณแม่บุศรา   อัมรินทร์ ,ท่านคุณพ่อเครือณรงค์(ครูต้อย) พรหมดิเรก ,ท่านผอ.กุสุมา   ขันตีกุล ,ท่านอาจารย์บรรเจิด ขันตีกุล ซึ่งเป็นคณะผู้บริหารโรงเรียนไพศาลวิทย์ รับเข้าเป็นครูในโรงเรียนไพศาลวิทย์ ก้าวแรกในชีวิตความเป็นครู นี่กำลังจะมีคนเรียกเราว่า ครูเหรอ มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นคล้ายๆกับสิ่งเตือนสติอยู่เสมอๆว่า ต่อไปนี้จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะมีนักเรียนอีกหลายร้อยคนที่กำลังมองเราอยู่ เราอบรมสั่งสอนเขาอยู่ตลอดเวลา ว่าให้เป็นคนดี พูดดี คิดดี ทำดี ฉะนั้นเราจะต้องเป็นคนดีให้เขาเห็นก่อน ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ต้องคิดก่อนพูด คิดก่อนทำเสมอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการที่ใครสักคนจะเป็นครู แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เราจะทำให้ใครหลายๆคนศรัทธาในความเป็นครูของเรา  เงินเดือนเดือนแรกที่ได้รับ ๒,๘๐๐ บาท เป็นเงินที่ไม่มากมายอะไร แต่มากด้วยความภาคภูมิใจ ด้วยความที่เป็นคนง่ายๆกินง่ายอยู่ง่าย จึงไม่เดือดร้อนในเรื่องค่าใช้จ่ายและอยู่ใกล้บ้าน ได้ดูแลคุณแม่และดูแลบ้านด้วย  

ตอนนั้นที่บ้านมีรถมอเตอร์ไซค์อาร์ซีเก่าๆอยู่คันหนึ่งที่มันเคยพรากชีวิตของคุณพ่อไปจากผู้เขียนตลอดชีวิต พอได้ขี่ไปทำงานเพราะโรงเรียนห่างจากบ้านประมาณ ๒ กิโลเมตร ข้าวกลางวันก็ห่อไปกิน บางวันแทบไม่ได้ใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว คุณครูส่วนมากก็จะห่อข้าวมาและก็กินด้วยกันในตอนพักเที่ยง เพราะรายได้ของครูโรงเรียนราษฎร์น้อย ไม่มีเงินค่าสอนพิเศษหรือรายได้อื่นๆ ทุกคนจึงต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ผู้เขียนเองยังติดนิสัยในความเป็นคนใช้จ่ายประหยัดมาจนทุกวันนี้ ด้วยลักษณะของสาขาที่สอนคือพลศึกษาและนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนเอาจริงเอาจังกับงาน จึงได้รับมอบหมายให้ทำงานในทีมฝ่ายปกครอง ซึ่งมีพี่ยุทธ์(อาจารย์ก่อเกียรติ บุญตาม)เป็นหัวหน้าและพี่ๆอีกหลายคน เช่น พี่อ๊อต(อาจารย์ประสิทธิพร  ชัยศร),พี่โจ๋(อาจารย์บุญเกิด  วัฒยุ),พี่หมาย(อาจารย์เฉลิมเกียรติ  พิทักษ์)และอีกหลายๆท่าน ในการดูแลนักเรียนซึ่งถือว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร เพราะนักเรียนส่วนมากมาจากหมู่บ้านต่างๆรอบอำเภอพล จึงมักจะมีปัญหาในเรื่องการทะเลาะวิวาท นักเรียนบางคนย้ายมาจากโรงเรียนอื่นเพราะมีปัญหาเรื่องการเรียนบ้าง เรื่องยาเสพติดบ้าง เรื่องทะเลาะวิวาทบ้าง ทำให้ครูฝ่ายปกครองต้องทำงานหนัก แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีความสุขเพราะนั่นเกิดจากศักยภาพของทีมผู้บริหารโรงเรียน ที่สามารถใช้คนให้ถูกกับงานเหมาะกับหน้าที่ ไม่เฉพาะผู้เขียนเท่านั้นที่เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนไพศาลวิทย์ คู่ชีวิตของผู้เขียนเอง(คุณครูสุจันทร์ญา  อุปแก้ว หรือที่เด็กนักเรียนมักจะเรียกว่าแม่เอ๋)หลังจากที่เรียนจบจากสถาบันเดียวกันกับผู้เขียนแล้ว ก็ได้รับความเมตตาจากท่านผู้บริหารรับเข้าเป็นครูที่โรงเรียนไพศาลวิทย์  

 ประสบการณ์หลายอย่างที่ผู้เขียนได้รับจากการเป็นครูในโรงเรียนไพศาลวิทย์เกือบห้าปี เป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่ายิ่งที่ไม่สามารถไปเรียนรู้ได้จากสถาบันการศึกษาใดเลย บางประสบการณ์ผู้เขียนยังคงนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานอยู่เสมอ  ใครที่เคยเป็นบุคลากรในโรงเรียนไพศาลวิทย์ คงจะจำได้ดีว่า ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงปิดภาคเรียน ครูทุกคนจะต้องออกเยี่ยมบ้านนักเรียน และออกรับสมัครนักเรียนใหม่ตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งเป็นนโยบายของผู้บริหารในการทำงานเชิงรุก เนื่องจากในขณะนั้นมีโรงเรียนสาขาเกิดขึ้นมากมาย โรงเรียนขยายโอกาสก็เปิดรับนักเรียนชั้นม.๑ อีกหลายโรงเรียน ทำให้กระทบต่อจำนวนนักเรียนและผู้ปกครองไม่มีข้อมูลในการตัดสินใจ จึงต้องให้ครูได้มีโอกาสไปประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจส่งนักเรียนเข้าเรียน นอกจากนั้นแล้ว ครูยังได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน รับรู้ปัญหาจากนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งเป็นการเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ผู้เขียนนึกถึงนโยบายของผู้บริหารทางการศึกษาระดับประเทศ เรื่องโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ที่มีขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ.๒๕๕๐ ก็นึกในใจว่า ทำไมคิดได้ช้าจัง โรงเรียนไพศาลวิทย์เขาทำมาเป็นสิบๆปีแล้วเรื่องนี้ จนปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนอนุบาลไพศาลวิทย์ ก็ยังทำอยู่ต่อเนื่องทุกปี ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีผู้ปกครองสนใจที่จะส่งบุตรหลานมาเข้าเรียนอย่างมากจนเต็มทุกชั้นเรียน แต่ท่านผู้บริหารโรงเรียนก็ยังให้ความสำคัญกับการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน

   โรงเรียนไพศาลวิทย์หรือโรงเรียนอนุบาลไพศาลวิทย์ในปัจจุบัน จึงไม่ใช่สถานศึกษาที่สร้างให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขเท่านั้น แต่ยังได้สร้างครูที่มีคุณภาพให้กับวงการศึกษาไทยอีกด้วย จากความสำเร็จทางด้านหน้าที่การงานในระดับหนึ่งของผู้เขียนเอง พูดได้อย่างไม่อายเลยว่าได้รับประสบการณ์มาจากการเป็นครูที่โรงเรียนไพศาลวิทย์ ครูที่ย้ายจากโรงเรียนไพศาลวิทย์ ไปอยู่โรงเรียนไหน ก็ถือว่าเป็นโชคดีของโรงเรียนนั้นเพราะได้ครูที่ผ่านบททดสอบของความเป็นครูมืออาชีพ พี่ เพื่อน น้อง ที่เคยเป็นครูที่โรงเรียนไพศาลวิทย์ คนอื่นๆจะมีความรู้สึกอย่างไรต่อโรงเรียนไพศาลวิทย์ ต่อคณะผู้บริหารโรงเรียน ผู้เขียนมิอาจจะบอกได้ แต่สำหรับผู้เขียนและครอบครัวแล้ว โรงเรียนไพศาลวิทย์คือที่ที่สร้างชีวิต สร้างอนาคตที่ดีให้กับผู้เขียน เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่ย่างก้าวเข้าไปเมื่อไหร่ก็สัมผัสได้กับความผูกพัน อบอุ่น ครอบครัวของผู้เขียนจึงมีความผูกพันต่อโรงเรียนไพศาลวิทย์ มีความผูกพันต่อผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ทุกวันนี้เวลาที่ผู้เขียนมีโอกาสก็จะพาครอบครัวเข้าไปคารวะท่านผู้มีพระคุณ และไปเยี่ยมชมความเจริญรุ่งเรืองของโรงเรียนอนุบาลไพศาลวิทย์อยู่เสมอ ภาพบรรยากาศเก่าๆยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้เขียนและรู้สึกประทับใจไม่รู้ลืม แล้วท่านผู้อ่านล่ะ เคยไปเยี่ยมชมโรงเรียนอนุบาลไพศาลวิทย์บ้างหรือยัง รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน 

 

ที่อยู่... ๒๙๑ ถ.เสริมสวาสดิ์ ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ๔๐๑๒๐

โทร.๐๔๓-๔๑๔๖๔๖  www.anubalpisanwit.ac.th 

 

จากเรื่องจริงของ...คนขายศาสตร์                        

Google

 

 


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 7,632 Today: 5 PageView/Month: 5

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...